ให้แน่ใจว่าส่วนผสมคลุกเคล้าเข้ากันดีและข้นกำลังพอดี
เติมน้ำลงไปอีกถ้าจำเป็นหากอยากได้ปูนเปียกที่เหนียวแน่น คุณไม่ต้องการให้ปูนมันเหลวไป
เม็ดทรายที่ไม่ได้ผสมให้เข้ากับปูนจะทำให้เกิดจุดอ่อนในก้อนหินที่ทำเสร็จแล้ว ให้แน่ใจว่าได้ผสมจนทุกอย่างคลุกเคล้าเข้ากันหมด
จดสิ่งที่คุณเติมและปรับเปลี่ยนจนกระทั่งคุณได้ความเหนียวข้นตามที่ต้องการ จดสูตรที่คุณค้นพบว่ามันใช้งานได้ดีที่สุดนั้นไว้ ทำตามสูตรนี้และใช้อุปกรณ์วัดตวงน้ำตัวเดิมทุกครั้งเพื่อให้ได้ปูนที่มีความเหนียวแน่นคงเดิม
เทปูนลงบนโครงลวดตาข่าย. ใช้เกรียงปลายแหลมแบนโบกปูนลงไปบนโครงลวดหนา 2-3″ [4]
ทำก้อนหินจากด้านล่างขึ้นมาโบกปูนรอบฐานก้อนหินเป็นชั้นแล้วโบกขึ้นมาเรื่อยๆ รอบโครงลวด
เติมผิวสัมผัสให้ปูน. ทำให้ก้อนหินดูสมจริงขึ้นโดยเติมส่วนโค้งนูนและตะปุ่มตะป่ำตามพื้นผิวของปูน
ใช้เกรียงทำร่องและรอยแยกบนพื้นผิวของปูน
กดก้อนหินจริงๆ ลงบนผิวปูนเพื่อทำให้ดูเป็นผิวสัมผัสของก้อนหิน
กดก้อนฟองน้ำทะเลหรือฝอยขัดแบบละเอียดลงไปบนก้อนหินเพื่อให้ดูเป็นรอยตะปุ่มตะป่ำ
พันถุงพลาสติกรอบมือแล้วกดลงไปที่ปูนเพื่อให้มันดูมีรอยย่น
เติมผิวสัมผัสให้ปูน. ทำให้ก้อนหินดูสมจริงขึ้นโดยเติมส่วนโค้งนูนและตะปุ่มตะป่ำตามพื้นผิวของปูน
ใช้เกรียงทำร่องและรอยแยกบนพื้นผิวของปูน
กดก้อนหินจริงๆ ลงบนผิวปูนเพื่อทำให้ดูเป็นผิวสัมผัสของก้อนหิน
กดก้อนฟองน้ำทะเลหรือฝอยขัดแบบละเอียดลงไปบนก้อนหินเพื่อให้ดูเป็นรอยตะปุ่มตะป่ำ
พันถุงพลาสติกรอบมือแล้วกดลงไปที่ปูนเพื่อให้มันดูมีรอยย่น
บ่มก้อนหินไว้ในบริเวณที่แห้ง 30 วัน. กระบวนการบ่มปูนเป็นผลมาจากปฏิกิริยาทางเคมีไม่ใช่แค่ปูนแห้ง ถึงแม้ว่ากระบวนการบ่มกว่า 75% จะเสร็จไปหลังจากหนึ่งสัปดาห์ มันอาจต้องใช้เวลาถึงหนึ่งเดือนกว่าที่ซีเมนต์จะบ่มจนสมบูรณ์
ฉีดละอองน้ำไปที่พื้นผิวก้อนหินทุกสองสามวันในระหว่างบ่ม
อย่าเอามันไปตากแดดโดยตรงเพื่อป้องกันการแตกร้าว
ใช้ผ้าใบพลาสติกห่อคลุมก้อนหินไว้ในระหว่างบ่มขัดหินเพื่อลบเหลี่ยมคม. ใช้หินขัดหรือแปรงลวดหยาบขัดผิวก้อนหิน ขัดเหลี่ยมหรือจุดที่คมบนพื้นผิวของก้อนหินออก
บ่มก้อนหินไว้หนึ่งสัปดาห์ก่อนเริ่มขัดเพื่อป้องกันไม่ให้ปูนร่วน
ล้างก้อนหิน. ล้างมันให้ถ้วนทั่ว ขัดผิวหน้าด้วยแปรงลวดระหว่างล้างเพื่อกำจัดสะเก็ดปูน ให้แน่ใจว่าได้ล้างตามรูร่องในก้อนหินเพื่อเอาฝุ่นปูนออกให้เกลี้ยง
ลงสีให้ก้อนหิน. ใช้ปูนสีทาพื้นผิวของก้อนหินตามสีที่คุณต้องการ คุณสามารถใช้สีหลายสีเพื่อทำให้มันสูสมจริงเป็นธรรมชาติที่สุด ถ้าอยากให้ดูมีดีไซน์ สามารถเติมผงเงาหรือกระทั่งผงสะท้อนแสงมาเติมลงไปด้วยก็ได้
ทาสีบนก้อนหินด้วยแปรงทาสี
เติมความลึกให้กับการลงสีโดยใช้สีมากกว่าแค่สีเดียว
ลงสีในบางจุดมากกว่าหนึ่งหนให้เกิดเงาตัดที่เข้มขึ้นเคลือบก้อนหิน. ใช้ยาทาเคลือบปูนที่ทำจากน้ำหรือตัวทำละลายมาปกป้องก้อนหินเทียมของคุณ น้ำยาเคลือบบางตัวจะทำให้ดูขึ้นเงามันในขณะที่บางตัวไม่ขึ้นเงาแต่ยังปกป้องได้อยู่ดี
ทาน้ำยาเคลือบ 3 ชั้น รอประมาณ 15 นาทีก่อนเคลือบชั้นถัดไป
รักษาผิวเคลือบนี้โดยการทาเคลือบซ้ำทุก 1-2 ปีเอาฐานข้างในของก้อนหินออก. ตัดสินใจว่าจะเอาด้านไหนเป็นด้านล่างของก้อนหิน แล้วกรีดมันออกเพื่อที่คุณจะสามารถเอาโครงข้างในออกมาได้ รูปทรงและความแข็งแรงของก้อนหินขึ้นอยู่กับปูนและโครงลวดตาข่าย วัสดุข้างในไม่ได้เป็นแกนยึดอะไรหลังจากที่ปูนบ่มได้ที่แล้ว การเอามันออกจะป้องกันไม่ให้มันผุพังอยู่ภายในตัดสินใจว่าคุณจะวางก้อนหินเทียมไว้ตรงจุดไหน. ก้อนหินเทียมสามารถใช้ประกอบบ่อน้ำ เป็นแนวตามทางเดิน หรือวางประกอบในสวน ตัดสินให้ดีว่าจะวางตรงจุดไหนโดยดูจากขนาดและหน้าตาของมัน
เว้นแต่ว่าคุณจะใช้ส่วนผสมปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ต้องให้ก้อนหินเทียมอยู่ห่างจากน้ำ การต้องแช่ในน้ำหรือโดยกระแสน้ำสาดใส่นานๆ สามารถทำให้ปูนซีเมนต์ทั่วไปเกิดแตกร้าวได้ขุดร่องเล็กๆ เว้าตรงที่จะวางก้อนหิน. วางก้อนหินลงตรงจุดที่คิดแล้วใช้กิ่งไม้หรือเสียมแซะขอบรอบๆ ก้อนหินนั้น ขุดหลุมลึก 1-2” ตามรูปสัณฐานของก้อนหิน การวางขอบก้อนหินให้อยู่ใต้ดินจะทำให้มันดูเป็นธรรมชาติสมจริงมากขึ้น
างก้อนหินลงในหลุม. ปัดขี้ดินและหินกรวดเล็กๆ ชนขอบของก้อนหินเทียมให้มันดูกลมกลืนไปกับภูมิทัศน์ วางหินหลายๆ ก้อนเพื่อจัดเป็นสวนหิน
คำเตือน
อย่าคิดใช้ก้อนหินเทียมมาเป็นตัวรับน้ำหนักสำหรับสระว่ายน้ำหรืออ่างแช่น้ำร้อน
เวลาต้องใช้ซีเมนต์ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง น้ำปูนสามารถทำให้เกิดรอยไหม้ถ้าโดนผิวหรือเข้าไปในปอด ให้สวมถุงมือกับหน้ากากเวลาผสมปูนรวมทั้งใส่ชุดทำงานที่รัดกุมด้วย