คุณสมบัติ
ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
สีและลวดลายสม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่น
ทนความร้อน สารเคมีกรดและด่าง
ติดตั้งสะดวก ทำความสะอาดง่าย
สามารถรองรับงานออกแบบที่มีขนาดใหญ่ได้ด้วยคุณสมบัติที่ไร้รูพรุน จึงทำให้หินสังเคราะห์ของเราได้รับความไว้วางใจทั้งในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว ห้องน้ำ เคาน์เตอร์ครัว ยังมีในส่วนของธุรกิจที่ต้องการความสวยงาม คงทน เล่น ตามพยาบาล คลีนิค ก็สามารถเลือกใช้ได้เช่นกัน และที่สำคัญทำให้มีความคงทนและแข็งแรงกว่าหินธรรมชาติความแข็งแกร่งสูง เนื้อแน่น เป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น ปราศจากโครงสร้างภายใน ทนต่อรอยขีดข่วน ทนความร้อน สำหรับงานท็อปเคาน์เตอร์จะมีความหนาแผ่นหินประมาณ 2 ถึง 2.5 เซนติเมตร จึงสามารถเจียขอบหรือเจียได้อย่างสวยงาม มีสีสันหลากหลายให้เลือก และสั่งตัดได้ตามขนาดจึงทำให้มีรอยต่อน้อยเน้นที่ลวดลายที่สร้างความโดดเด่น สามารถใช้งานได้ในทุกๆ ส่วนของบ้านทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร เนื่องด้วยคุณสมบัติของวัสดุที่สามารถทนทานต่อแสงยูวี มีความคงทนแข็งแรง การดูแลรักษา และการซ่อมแซมก็สามารถทำได้โดยง่ายสำหรับการเลือกใช้วัสดุทั้ง 2 ประเภทอย่าง หินธรรมชาติ (หินแท้) และหินสังเคราะห์ (หินเทียม) ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน ทั้งเรื่องของพื้นที่ใช้งาน คุณสมบัติ การดูแลรักษา รวมไปถึงราคา ดังนั้นหากใครกำลังมองหาวัสดุเพื่อนำไปตกแต่งภายในที่อยู่อาศัยวัสดุทั้ง 2 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี
…ไขข้อสงสัย ความแตกต่างระหว่าง หินสังเคราะห์ Solidsurface กับ หินเทียม composite stone
อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันงานออกแบบต่างๆและผู้ผลิตต่างเริ่มหันมาใช้ หินสังเคราะห์และหินเทียม ในการผลิตกันมากขึ้น ซึ่งเป็นวัสดุที่ถูกนำมาใช้งานมากที่สุดทั้งใช้ปูพื้น กรุผนัง ทำสุขภัณฑ์ห้องน้ำ อ่างอาบน้ำ อ่างล้างมือ รวมไปถึงใช้เป็นวัสดุปิดผิวเฟอร์นิเจอร์ประเภทต่างๆ และสามารถนำไปออกแบบได้หลากหลายสไตล์ วัสดุไม่มีรูพรุน รอยต่อแนบสนิท แต่ยังมีบางคนยังคนสงสัยว่า ตกลงแล้ว หินสังเคราะห์ Solid surface กับหินเทียม composite stone คือวัสดุเดียวกันใช่หรือไม่
จริงๆแล้วคุณสมบัติใกล้กันมาก จนทำให้หลายๆคนเข้าใจว่าหินสังเคราะห์กับหินเทียมคือตัวเดียวกัน จริงๆแล้ว หินเทียม คือ การเอาหินจริงมาบด แล้วอัดกลับเป็นแผ่น โดยผสมเรซินเป็น ‘ตัวประสาน ‘ ติดกันแนบแน่น ส่วนทางด้าน หินสังเคราะห์ Solid surface คือการสร้างหินสังเคราะห์เสมือนจริง มีการใช้นวัตกรรมต่างๆ ใส่เพิ่มเข้าไปในวัสดุ เพื่อให้คุณสมบัติของหินสังเคราะห์พิเศษยิ่งขึ้นเช่น ทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว ซึ่งการผลิตเฟอร์นิเจอร์หรือ สุขภัณฑ์ พวกอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้าหินสังเคราะห์นั้น
บางผู้ผลิตจะทำการใส่สารเติมแต่ง anti-bac, auto-clean หรือสารตัวอื่นอีกมากมาย เพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้กับวัสดุหินสังเคราะห์ ทำให้วัสดุหินสังเคราะห์ Solidsurface โดดเด่นกว่าการเลือกใช้หินธรรมชาติทั่วไป สารเติมแต่งที่ใช้ในหินสังเคราะห์ (Additive) เป็นสารที่ช่วยช่วยเสริมคุณสมบัติเดิมของวัสดุให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น เช่น สารยับยั้งเชื้อรา สารต้านทานรังสียูวี
ส่วนเรื่องดีไซน์รูปร่าง ลวดลาย และพื้นผิวต่าง หินสังเคราะห์ สามารถแมทช์สีและลวดลายให้ตรงตามคอนเซ็ปต์ของงานดีไซน์ได้ตามต้องการ มีความสามารถในการดัดโค้ง ซึ่งช่วยตอบโจทย์งานดีไซน์ได้อย่างดี มีผิวสัมผัสที่สวยงาม เรียบเนียนสม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่น สำหรับคุณลูกค้าที่ชอบอ่างอาบน้ำมีดีไซน์ น่าจะถูกใจเป็นอย่างมาก
ประเภทหินสังเคราะห์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบหลักๆ คือ
หินสังเคราะห์อะครีลิค 100% ที่ผลิตขึ้นมาจากวัสดุจากธรรมชาติ วัสดุสังเคราะห์ และสารเติมแต่ง ไม่มีรูพรุน สามารถดัดโค้งได้ มีสีและลวดลายสม่ำเสมอทั่วทั่งแผ่น ติดตั้งง่าย
อะคริลิกผสมโพลีเอสเตอร์ ต่างจากหินสังเคราะห์เกรดอะคริลิก 100% ตรงที่จะลดปริมาณ อะคริลิกลง แล้วเติมโฟลีเอสเตอร์เข้าไปแทน มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรงคงทนทาน ไม่ดูดซึมน้ำ และทนความร้อนได้เป็นอย่างดี แต่จะดัดโค้งค่อนข้างยาก การดูแลรักษา หินสังเคราะห์ถูกผลิตขึ้นเพื่อตอบโจทย์เรื่องสุขอนามัย ความสวยงาม หินสังเคราะห์ จึงมีการดูแลรักษาที่ง่าย โดยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆ เช็ดทำความสะอาด จึงเหมาะอย่างยิ่งในการนำมาทำเป็นสุขภัณฑ์ที่ต้องมีการโดนน้ำ และคราบต่างๆ
ข้อดีของหินสังเคราะห์
ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
สีและลวดลายสม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่น
ทนความร้อน สารเคมีกรดและด่าง
ติดตั้งสะดวก ทำความสะอาดง่าย
สามารถรองรับงานออกแบบที่มีขนาดใหญ่ได้
สุดท้ายแล้ว แต่ละวัสดุก็มีข้อดีข้อเสีย วิธีการดูแลและประโยชน์การใช้สอยต่างกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ความต้องการของคุณที่ตั้งไว้ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างสมเหตุสมผลและเกิดประโยชน์สูงสุด