ทนายความด้านสิ่งแวดล้อม ดูแลคดีและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องทางสิ่งแวดล้อม เช่น ทำงานให้กับกลุ่มผู้สนับสนุนสิ่งแวดล้อม บริษัทกำจัดขยะหรือหน่วยงานรัฐในการช่วยดูแลข้อกฎหมายต่างๆ
ทนายความด้านภาษีอากร ดูแลกรณีที่เกี่ยวข้องกับภาษีให้กับบุคคลและบริษัทต่าง ๆ พวกเขาช่วยเหลือลูกความเกี่ยวกับข้อตกลงที่มีความซับซ้อน เพื่อให้ลูกความจ่ายภาษีที่เหมาะสมกับรายได้ กำไรหรืออสังหาริมทรัพย์ที่มี
ทนายความด้านทรัพย์สินทางปัญญา ทำหน้าที่ด้านกฎหมายการลงทุน ลิขสิทธิ์ การค้าและการฝีมือ เช่น ดนตรี หนังสือและภาพยนตร์
ทนายความครอบครัว ทำงานด้านกฎหมายในเรื่องภายในครอบครัว พวกเขาให้คำแนะนำลูกความเกี่ยวกับการหย่าร้าง การเลี้ยงดูบุตรและการรับบุตรบุญธรรม
ทนายความด้านความปลอดภัย ทำงานด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับการซื้อหรือขายหุ้น รักษาและดูแลเอกสารและข้อมูลที่เป็นความลับ
ขั้นตอนการทำงาน
สื่อสารกับลูกความ เพื่อทำความเข้าใจประเภทของคดีว่าเป็นแพ่ง หรืออาญา มีใครซึ่งมีสถานะใดบ้างที่เป็นคู่กรณี รวมทั้งสอบถามเพื่อนร่วมงาน ผู้พิพากษา และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีทำความเข้าใจและหาหลักฐานเพิ่มเติม
จัดทำวิจัยและวิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมาย ตีความกฎหมาย คำพิพากษา และระเบียบข้อบังคับ สำหรับบุคคลและบริษัท
นำเสนอข้อเท็จจริงด้วยหลักฐานและคำให้การของลูกความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทางคดีและทำการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งทางคดีในนามของลูกความ ไม่ว่าสถานะของลูกความของเราจะเป็นโจทก์หรือจำเลยก็ตาม
หากลูกความเป็นโจทก์ ทนายต้องเตรียมเอกสาร หลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่างคำฟ้องและยื่นฟ้องต่อศาล พร้อมแนบเอกสารที่จำเป็นเพื่อให้ได้รับการพิจารณาโดยง่าย โดยเมื่อเรื่องถึงชั้นศาล ทนายความต้องไปศาลทุกนัดจนเสร็จสิ้นคดี
ในกรณีที่ลูกความเป็นจำเลย ทนายต้องรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อจำเลย แล้วนำไปพิสูจน์ต่อศาลแก้ข้อกล่าวหาของโจทก์ โดยเมื่อเรื่องถึงชั้นศาล ทนายความต้องไปศาลทุกนัด ตั้งแต่นัดไต่สวนมูลฟ้อง นัดสืบพยาน จนถึงวันที่ศาลตัดสิน เป็นอันเสร็จคดี
เมื่อคดีเสร็จสิ้นแล้วก็รับค่าทนายความตามที่ตกลงกันไว้ และห้ามเปิดเผยความลับของผู้ที่ตนว่าความให้ เว้นแต่ลูกความจะอนุญาต
สถานที่ทำงาน
งานของทนายความมีทั้งในสำนักงานและสถานที่อื่นๆ ที่ต้องไปติดต่อประสานงาน
สำนักงานทนายความ หรือสำนักงานที่ตนเองสังกัด ในช่วงเวลาที่ไม่ต้องไปประสานงานกับใคร ทนายมักจะทำงานเตรียมเอกสารต่าง ๆ ในสำนักงานของตนเอง
สถานที่เกิดเหตุ สถานที่สำคัญที่ทนายควรไปด้วยตัวเอง เพื่อสืบหาหลักฐานจากพยาน และข้อมูลต่างๆ
ศาล บทสรุปกระบวนการยุติธรรมเกิดขึ้นที่ศาล ทนายต้องเข้าว่าความแก้ต่างให้แก่ลูกความ รับฟังคำพิจารณาในศาลเป็นส่วนใหญ่
สถานีตำรวจ ทนายอาจต้องทำหน้าที่ประกันตัวลูกความ ประสานงานกับตำรวจ โดยให้ตำรวจช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบหาหลักฐาน
โรงพยาบาล หลายครั้งที่คดีอาจมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านนิติเวชในการพิสูจน์ ทนายความจึงอาจต้องประสานงานกับทางโรงพยาบาล เพื่อใบรับรองแพทย์ หรือคำยืนยันจากแพทย์เพื่อประโยชน์ทางคดี
เรือนจำ บางกรณีที่ลูกความหรือพยานเป็นจำเลยและอาจถูกฝากขัง จึงต้องมีการเดินทางไปเจรจาและสอบถามลูกความที่เรือนจำนั้นแห่งนั้นด้วย
แหล่งที่พักอาศัยและอื่นๆ ทนายอาจต้องหาหลักฐาน รวบรวมข้อมูลจากที่พักอาศัยของผู้เกี่ยวข้องกับคดีความ
ผู้ที่ต้องทำงานด้วย
ลูกความ ผู้ที่ว่าจ้างให้เราว่าความให้ ไม่ว่าจะในกรณีที่เป็นโจทก์ (ผู้เสียหาย) หรือจำเลย (ผู้ถูกกล่าวหา) ลูกความต้องสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ให้ทนายรับทราบเพื่อหาทางแก้ไขและคืนความยุติธรรมให้แก่ลูกความตามความถูกต้องของกฎหมาย
อัยการ หากคู่คดีของเราเป็นหน่วยงานรัฐ อัยการจะเป็นผู้ว่าความให้อีกฝ่าย ซึ่งเราต้องต่อสู้ด้วยในชั้นศาล