การปลูก บ้านชั้นเดียวยกสูง สามารถปลูกได้ทั้งพื้นที่ราบลุ่ม หรือที่ดอนสูง หากปลูกในพื้นที่ราบลุ่ม หรืออยู่ใกล้กับแม่น้ำนั้น ก็จะปลอดภัยจากสัตว์ร้าย หรือคนร้ายในยามค่ำคืน และยังเป็นการป้องกันน้ำท่วมถึงตัวบ้านอีกด้วยเนื่องจากการมีเสาบ้านที่สูงทำให้ตัวบ้านไม่มีผลกระทบต่อน้ำแน่นอน ที่สำคัญไปกว่านั้น เสน่ห์ของใต้ถุนบ้านยังเชื่อมโยงความสัมพันธ์ ระหว่างผู้คน ชาวบ้านมีการพึ่งพาอาศัยและทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันอยู่เสมอๆเป็นแบบบ้านที่เราใช้มาตั้งแต่อดีตและปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี
1. ทำให้บ้านดูสูงโปร่งโล่งและดูสะอาดตา
2. การพัดของลมที่จะนำฝุ่นเข้าบ้านน้อยลงเนื่องจากตัวบ้านจะอยู่ด้านบนทำให้ฝุ่นเข้าน้อยกว่าบ้านชั้นเดียวแบบปกติ
3. สามารถซ่อนท่อระบบต่างๆ ไม่ให้เห็นด้วยตา
4. สามารถวางท่อกำจัดปลวกได้
5. ลดความชื้นจากดินได้เนื่องจากตัวบ้านอยู่ด้านบนไม่ติดกับดินจะทำให้ยืดอายุบ้านให้อยู่กับเราได้นานขึ้น
6. ช่วยไม่ให้บ้านโดนน้ำท่วมถึงได้เพราะตัวบ้านที่สูงกว่าระดับน้ำนั้นเอง
7. ช่วยป้องกันสัตว์เข้าบ้านได้เพราะสัตว์โดยส่วนใหญ่จะมาจากพื้นบ้านยกสูงจึงทำให้สัตว์ต่างๆเข้าบ้านได้ยากกว่าปกติ
8. ช่วยให้รับลมธรรมชาติได้ดีขึ้น
การสร้างบ้านชั้นเดียวยกสูงจะไม่เหมาะกับบ้านที่มีผู้สูงอายุหรือผู้พิการ เพราะจะทำให้การขึ้น-ลง ไม่สะดวก ดังนั้นการที่คุณจะสร้างบ้านสักหลังต้องคำนึงจากผู้อยู่อาศัยเป็นหลักก่อนว่าเหมาะกับรูปแบบบ้านที่เป็นแบบไหนควรที่จะต้องออกแบบบ้านที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครอบคลุมเพื่อมีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแต่สำหรับใครที่กลัวจะใช้งานไม่สะดวกหากบ้านไหนมีผู้สูงอายุเราและอยากได้บ้านยกสูงควรที่จะต้องปรึกษาผู้รู้อย่างก็สถาปนิกเพื่อที่จะเลือกออกแบบให้มีการยกพื้นบ้านสูงขึ้นมาในระดับใดจึงจะเหมาะสมที่จะไม่สงผลกระทบไปถึงโครงสร้างบ้านในอนาคต
หลังเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 2554 คำถามที่ถูกถามบ่อยที่สุดก็คือ อยากดีดบ้านให้สูงขึ้นเพื่อหนีน้ำท่วม ทำอย่างไรดีและค่าใช้จ่ายเท่าไร ซึ่งผมหรือวิศวกรอาสาก็มักจะต้องมีการทำความเข้าใจกับผู้สอบถามก่อนว่าการดีดบ้านต้องทำอย่างไร และสุดท้ายก็มักจะหยุด เพราะเมื่อทราบว่าค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าที่คาดไว้ค่อนข้างมาก
การดีดบ้านหรือยกบ้านนั้นเป็นการตัดยกโครงสร้างบ้านทั้งหลังให้สูงขึ้น แล้วเสริมเสากับตัวบ้านใหม่ลงบนฐานรากเดิมหรือฐานรากใหม่ที่มีการเสริมความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งปกติจะต้องดำเนินการโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ในช่วงหลังนี้ความต้องการในการดีดหรือยกบ้านมีมากขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดีดหรือยกบ้านสำหรับบริษัทที่มีมาตรฐานในการทำงาน มักจะคิ
ดค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นการทำงานที่ต้องอาศัยประสบการณ์สูงและมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ทำให้มีช่างที่เคยรับจ้างดีดหรือยกบ้านตามต่างจังหวัด ซึ่งมักจะเป็นบ้านไม้มารับจ้างยกบ้านตามประสบการณ์เดิมที่เคยทำกันมา แต่การดีดบ้านที่เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กต่างจากการดีดบ้านไม้ค่อนข้างมาก เพราะน้ำหนักบ้านมีมากกว่าหลายเท่า และโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าโครงสร้างไม้ ดังนั้น จึงมีข่าวการทรุดตัวของบ้านขณะทำการยกจนมีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้น จึงอยากให้ข้อคิดในกรณีที่อยากจะดีดบ้าน ดังนี้
1. วิศวกรโครงสร้างที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถดีดอาคารได้แทบทุกชนิด ทั้งโครงสร้างไม้, คอนกรีตเสริมเหล็ก หรือแม้แต่โครงสร้างเหล็ก แต่อาคารที่เหมาะในการยก คืออาคารเป็นหลังเดี่ยว เช่น บ้านเดี่ยว ไม่เหมาะสำหรับตึกแถวหรือทาวน์เฮ้าส์ เพราะการดีดจะต้องทำทั้งหลัง ไม่สามารถทำเฉพาะส่วนได้ ส่วนตึกแถวหรือทาวน์เฮ้าส์ หากต้องการทำ ต้องทำพร้อมกันทั้งแถว2. การดีดหรือยกอาคาร ตามกฎหมายแล้วถือเป็นการดัดแปลงอาคาร จำเป็นต้องมีการยื่นขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งตามกฎหมายต้องมีวิศวกรออกแบบและควบคุมงาน เพื่อรับผิดชอบการทำงานดังกล่าว