ขั้นตอนที่ 2
ประกอบเครื่องมือเข้ากับตัวบ้าน ล็อกให้แน่นหนาถาวร และลัดกุมอย่างไม่มีการติดขัด มั่นคงและแข็งแรง จนสามารถที่จะดีดตัวบ้านขึ้นได้
ขั้นตอนที่ 3
ทำการดีดบ้าน ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย ที่ทีมงานเราได้ประกอบไว้อย่างแข็งแรง แน่นหนาและ ลัดกุม เมื่อถึงระดับ ที่ ต้องการจะทำการเช็คปรับระดับเสาทุกต้นให้อยู่ในระดับเดียวกันเพื่อไม่ให้มีการทรุดเอียง ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยของเรา
ขั้นตอนที่ 4
ทำการเชื่อมต่อเสาตอม่อ โดยเชื่อมจากรากฐานของเสาตอม่อตัวล่างเดิมเพื่อความมั่นคง และแข็งแรง พร้อมทั้ง ประกอบแบบเทเสาตอม่อให้กับที่ ใหญ่กว่าเดิมสามารถรับน้ำหนักตัวบ้านได้อย่างมั่นคง แน่นหนาถาวรตลอดไป
ขั้นตอนที่ 5
ทำการถอดแบบเสาตอม่อ และถอดเครื่องมือออกจากตัวบ้าน พร้อมขึ้นอยู่อย่างมั่นคงและแข็งแรง แน่นหนาถาวร อย่างสบายใจตลอดไป
หลักการดีดบ้าน ดีดอย่างไรให้ปลอดภัยไม่มีความเสี่ยงบ้านพัง
ว่ากันด้วยเรื่องปัจจัยสำคัญที่ทำให้การ ดีดบ้าน เกิดความเสียหาย นั้นหลายๆท่านอาจจะคิดไม่ถึงว่า แม่แรงนั้นเป็นตัวแปรสำคัญนั้นก็เพราะว่าแม่แรงไม่สามารถรับน้ำหนักตัวบ้านได้ รอกยกไม่ได้มาตรฐาน ความเชี่ยวชาญของทีมงาน ซึ่งเมื่อเกิดเหตุขึ้นผลมักออกมาอย่างที่เราเห็นกันตามข่าว ซึ่งการดีดบ้านอย่างไรให้ปลอดภัย นั้นมีขั้นตอนและวิธีการอย่างไรและแบบไหนที่เราควรจะทราบไว้เป็นความรู้เบื้องต้น คือ อันดับแรก การเลือกผู้รับเหมาที่มีความสามารถจริงๆ มีความรู้ทั้งการก่อสร้าง และ วิศวกรรม มีผลงานการดีดบ้านที่เสร็จสมบูรณ์และปลอดภัย ใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย มีการวางแผนการทำงาน การคำนวณจุดที่ต้องตัดและยกตามหลักวิศวกรรม ซึ่งข้อมูลต่างๆเหล่านี้เราสามารถสอบถามได้จากผู้รับเหมา หรือ บางคนใช้วิธีหาจากอินเตอร์เน็ตซึ่งเราสามารถดูผลงานที่ผ่านมาได้ ดูรายละเอียดคร่าวๆได้
ดีดบ้าน อย่างไรให้ปลอดภัย
การ ดีดบ้าน ให้ปลอดภัย สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงสิ่งแรกเลยคือ อุปกรณ์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานแต่ส่วนใหญ่ที่เรามักเห็นกันนั้นคือการดีดบ้านในแบบธรรมดาตามภูมิปัญญาชาวบ้าน ใช้อุปกรณ์ที่ธรรมดา เช่น แม่แรง รอก และ อุปกรณ์การตัดต่างๆ นอกจากนี้การวางแผนการทำงาน การวางผังสำหรับเสริมฐานรากใหม่ก็สคัญมากๆเพราะว่า
ต้องคำนวณจุดต่างๆที่จะตัดและยกดีดตัวบ้านขึ้นสูง ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญความเชี่ยวชาญและอุปกรณ์ที่พร้อมดังนั้นงผู้รับเหมาเองต้องเชี่ยวชาญจริงๆสามารถยกดีดบ้านของลูกค้าได้อย่างปลอดภัย ต้องมีการดูลักษณะของบ้าน ดูแผนผังหรือพิมพ์เขียวของบ้านที่ต้องการดีด (ถ้ามี) ต้องคำนวนว่าสามารถยกได้สูงเท่าไหร่จึงจะปลอดภัย การเสริมฐานรากนั้นต้องทำแบบไหนถึงจะรับน้ำหนักตัวบ้านได้ปลอดภัย พร้อมกับรองรับการทรุดตัวของพื้นดินและแรงสั่นสะเทือนได้
ตัวอย่างการดีดบ้าน ให้ปลอดภัย
ต้องขุดดินเพื่อที่จะดีดบ้านเจาะรอบๆตัวบ้านจนถึงฐานของคานที่อยู่ใต้ดิน สร้างฐานรองรับอุปกรณ์ในการดีดบ้านคือแม่แรงที่ต้องใช้แม่แรงที่ได้มาตรฐานเช่น แม่แรงไฮโดรลิค ตรวจสอบการติดตั้งอุปกรณ์อย่างถี่ถ้วนว่าวางถูกต้องตามจุดต่างๆ ยึดอุปกรณ์ให้แน่นหนา ตรวจสอบฐานอุปกรณ์ว่าอยู่ในระดับเดียวกันทั้งหมด รวมทั้งจุดที่ยึดกับตัวบ้าน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจึงทำการยกบ้านในทุกๆจุดพร้อมๆกันซึ่งหากเป็นแม่แรงไฮโครลิคจะมีเครื่องมือควบคุมทำให้สามารถดีดบ้านขึ้นพร้อมกันได้ทุกจุด เมื่อดีดบ้านขึ้นแล้วก็จะเช็คระดับความสูง เช็คระดับฐานราก ว่าอยู่ในจุดที่ต้องการหรือไม่ มีการเอียงตรงจุดไหนหรือเปล่า หากเรียบร้อยดีก็สามารถทำการเชื่อมฐานรากใหม่ เสริมความแข็งแรงและความสูงของเสาใหม่ให้เรียบร้อยและปรับปรุงพื้นที่ใต้บ้านตามที่ต้องการ
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้สรุปได้เลยว่า ควรจะต้องการผู้รับเหมาที่มีความชำนาญพร้อมอุปกรณ์ที่พร้อมจริงๆ จึงจะทำการดีดบ้านให้เสร็จสมบูรณ์ได้อย่างปลอดภัยและ ผู้รับเหมาต้องคำนวณระยะการดีด การเสริมเสาเข็ม ให้ละเอียดเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย